การเดินทางสัมผัสอุตสาหกรรมเก่าแก่บนเกาะซาโดะ มรดกโลก และวัฒนธรรมคิตามาเอะของนีงาตะ ซึ่งยังคงดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
- เวลาที่จำเป็น : 2 คืน 3 วัน
- วิธีเดินทางหลัก : รถยนต์
เพลิดเพลินกับนีงาตะ พร้อมสัมผัสประวัติศาสตร์ของเหมืองทองคำบนเกาะซาโดะ มรดกโลก และวัฒนธรรมอุตสาหกรรมของนีงาตะ พร้อมสัมผัสอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองจากเรือคิตามาเอะแห่งชายฝั่งญี่ปุ่น
เริ่มต้น
วันที่ 1
สถานีสึบาเมะ-ซันโจ
สัมผัสประสบการณ์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กิจกรรมตีขึ้นรูปแก้วทรงสูงที่ทำจากทองแดงบริสุทธิ์ ฯลฯ มาสนุกเพลิดเพลินกับงานฝีมือที่เมืองสึบะเมะกัน (Creating hammered patterns on a copper beer cup etc.)
สัมผัสประสบการณ์สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แบบนายช่างมืออาชีพที่เมืองสึบะเมะ เมืองแห่งการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 400 ปี ! เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นของฝากในการท่องเที่ยวของคุณ

"ภาชนะทองแดงตีขึ้นรูป" เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์แปรรูปโลหะแบบดั้งเดิมของเมืองสึบะเมะ ซึ่งผลิตโดยการตีแผ่นทองแดงด้วยค้อนเหล็ก ที่พิพิธภัณฑ์วัสดุอุตสาหกรรมเมืองสึบะเมะ นอกจากจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตต่าง ๆ แล้ว คุณยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรม “ตีขึ้นรูป” ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการการทำภาชนะทองแดงตีขึ้นรูปได้อย่างง่าย ๆมาลองตีผิวแก้วน้ำทรงสูงและแก้วจอกทองแดงบริสุทธิ์ ใส่ลวดลายตีขึ้นรูปทำเป็นแก้วน้ำทรงสูงแบบออริจินัลพิเศษเฉพาะของคุณกัน ลวดลายที่เกิดจากการตีขึ้นรูปจะทำให้ผิวด้านในของแก้วไม่เรียบซึ่งจะช่วยเพิ่มการเกิดฟอง และช่วยให้คุณได้ลิ้มรสฟองเบียร์นุ่ม ! และยังมีรายการกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย
สวนซากปราสาทชิบาตะ
สวนซากุระแสนงามที่ทำให้อาวรณ์ถึงสี่สิบเจ็ดโรนิน

สวนกว้างในตัวเมืองที่มี “ปราสาทชิบาตะ” ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยอันดับปราสาทชื่อดังของญี่ปุ่น “ประตูด้านหน้าของปราสาทชิบาตะ” อันเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น “ป้อมปราการที่ตั้งอยู่ตรงมุมของป้อมปราการชั้นนอกเดิม” และคูน้ำยังคงสภาพเดิมในสมัยนั้น ป้อมปราการสามชั้นที่มีชาจิโฮโกะ 3 ตัววางอยู่บนหลังคารูปตัว T เพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น ที่ตั้งของป้อมปราการสามชั้นไม่ได้อยู่ด้านในเพราะอยู่ในพื้นที่ของกองกำลังป้องกันตนเอง ดังนั้นไม่ควรพลาดชมลักษณะภายนอกอันมีความโดดเด่นนั้นให้ได้ จุดน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือกำแพงนามาโกะ (สถาปัตยกรรมเรขาคณิตของซามูไรสมัยเอโดะ) ที่พบเห็นได้บ่อยๆ ตามปราสาทในเขตอากาศหนาวอย่างประเทศที่มีหิมะตก
ช่วงดอกซากุระบานจะมีตั้งโคมไฟให้เพลิดเพลินกับซากุระในยามราตรีด้วย เชิญเพลิดเพลินใจไปกับการผสมผสานระหว่างซากุระกลางคืนที่สะท้อนบนคูน้ำและปราสาทที่มีไฟประดับ
เป็นสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองเพราะสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี โดยในฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระ ฤดูร้อนจะมีดอกบัวที่บานอยู่ในคูน้ำ ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวจะมีวิวหิมะปกคลุมทั่วบริเวณ
ช่วงดอกซากุระบานจะมีตั้งโคมไฟให้เพลิดเพลินกับซากุระในยามราตรีด้วย เชิญเพลิดเพลินใจไปกับการผสมผสานระหว่างซากุระกลางคืนที่สะท้อนบนคูน้ำและปราสาทที่มีไฟประดับ
เป็นสวนสำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองเพราะสามารถเพลิดเพลินได้ตลอดทั้งปี โดยในฤดูใบไม้ผลิจะมีซากุระ ฤดูร้อนจะมีดอกบัวที่บานอยู่ในคูน้ำ ฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสี และฤดูหนาวจะมีวิวหิมะปกคลุมทั่วบริเวณ
สึกิโอะกะออนเซ็น
ออนเซ็นเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิง!

สึกิโอะกะออนเซ็นเป็นออนเซ็นไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีแร่ธาตุกำมะถันสูง น้ำพุร้อนกำมะถันสีมรกตสวยแปลกตาจนได้ฉายาว่า ""ออนเซ็นเสริมความงาม"" และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง มีความอ่อนโยนต่อผิวเพราะมีค่าด่างอ่อนๆ หลังแช่จะรู้สึกว่า “ผิวเต่งตึง” และมีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นอีกด้วย
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
สึกิโอะกะออนเซ็น
ออนเซ็นเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิง!

สึกิโอะกะออนเซ็นเป็นออนเซ็นไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีแร่ธาตุกำมะถันสูง น้ำพุร้อนกำมะถันสีมรกตสวยแปลกตาจนได้ฉายาว่า ""ออนเซ็นเสริมความงาม"" และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง มีความอ่อนโยนต่อผิวเพราะมีค่าด่างอ่อนๆ หลังแช่จะรู้สึกว่า “ผิวเต่งตึง” และมีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นอีกด้วย
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
วันที่ 2
ออกเดินทางจากที่พัก
เกาะซาโดะ
เกาะแห่งญี่ปุ่นอย่างแท้จริง เกาะอันทรงคุณค่าที่มีเสน่ห์ทั้งสี่ฤดูกาลและวัฒนธรรมดั้งเดิม

เกาะซาโดะเป็นบ้านของอิทธิพลทางวัฒนธรรมหลัก 3 ประการ ได้แก่ วัฒนธรรมชนชั้นสูงที่สืบทอดมาจากชนชั้นสูงและปัญญาชนที่ถูกเนรเทศ วัฒนธรรมซามูไรที่สืบทอดมาจากเอโดะโดยขุนนางและข้าราชการอันเนื่องมาจากการพัฒนาเหมืองแร่ และวัฒนธรรมชาวเมืองที่สืบทอดมาจากพ่อค้าและลูกเรือบนเรือคิตามาเอะบุเนะ อิทธิพลทางวัฒนธรรมทั้งสามประการนี้ยังคงเฟื่องฟูและพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เกาะแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีความหลากหลายเท่านั้น แต่ภูมิประเทศทางธรรมชาติก็มีความหลากหลายเช่นกัน เส้นขนานที่ 38 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างพืชพรรณเขตร้อนและพืชพรรณเขตร้อน ตัดผ่านใจกลางเกาะ ก่อให้เกิดพื้นที่พืชพรรณหายากอย่างยิ่ง ซึ่งมีพืชเกือบ 1,700 สายพันธุ์จากทั้งภาคเหนือและภาคใต้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ด้วยภูมิประเทศชายฝั่งของญี่ปุ่นที่สะท้อนออกมาอย่างครบถ้วน ภูมิทัศน์ธรรมชาติจึงเปรียบเสมือนการแสดงผืนแผ่นดิน นอกจากจะได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีวิทยาของญี่ปุ่นแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะยังได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติซาโดะ-ยาฮิโกะ-โยเนะยามะ
ลองไปเยือนเกาะซาโดะที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งเหมืองทองคำที่เคยเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาลโชกุนเอโดะ และอาหารทะเลชั้นเลิศดูไหม?
เกาะแห่งนี้ไม่เพียงแต่มีความหลากหลายเท่านั้น แต่ภูมิประเทศทางธรรมชาติก็มีความหลากหลายเช่นกัน เส้นขนานที่ 38 ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างพืชพรรณเขตร้อนและพืชพรรณเขตร้อน ตัดผ่านใจกลางเกาะ ก่อให้เกิดพื้นที่พืชพรรณหายากอย่างยิ่ง ซึ่งมีพืชเกือบ 1,700 สายพันธุ์จากทั้งภาคเหนือและภาคใต้เจริญเติบโตตามธรรมชาติ ด้วยภูมิประเทศชายฝั่งของญี่ปุ่นที่สะท้อนออกมาอย่างครบถ้วน ภูมิทัศน์ธรรมชาติจึงเปรียบเสมือนการแสดงผืนแผ่นดิน นอกจากจะได้รับการรับรองให้เป็นอุทยานธรณีวิทยาของญี่ปุ่นแล้ว พื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะยังได้รับการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติซาโดะ-ยาฮิโกะ-โยเนะยามะ
ลองไปเยือนเกาะซาโดะที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งเหมืองทองคำที่เคยเป็นแหล่งรายได้ของรัฐบาลโชกุนเอโดะ และอาหารทะเลชั้นเลิศดูไหม?
เพลิดเพลินกับคอร์สท่องเที่ยวเกาะซาโดะหนึ่งวัน

สึกิโอะกะออนเซ็น
ออนเซ็นเสริมความงามที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิง!

สึกิโอะกะออนเซ็นเป็นออนเซ็นไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่มีแร่ธาตุกำมะถันสูง น้ำพุร้อนกำมะถันสีมรกตสวยแปลกตาจนได้ฉายาว่า ""ออนเซ็นเสริมความงาม"" และเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง มีความอ่อนโยนต่อผิวเพราะมีค่าด่างอ่อนๆ หลังแช่จะรู้สึกว่า “ผิวเต่งตึง” และมีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้นอีกด้วย
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
ขอแนะนำให้มาเดินเล่นช่วงเย็นๆ เพื่อชมเมืองออนเซ็นที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของกำมะถัน บ้านเมืองมีแสงไฟสว่างไสวและอาจจะได้เดินสวนกับเหล่าเกอิชาในชุดกิโมโนสวยๆ อีกด้วย ควรมาค้าง 1 คืนเพื่อให้ได้ดื่มด่ำกับเมืองออนเซ็นซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น มีที่พักหลายรูปแบบตั้งแต่เรียวกังขนาดใหญ่ไปจนถึงที่พักที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักขนาดเล็ก
ในเมืองมีร้านค้าต่างๆ อย่างร้านให้ชิมสุรา ร้านที่จะให้ทำกิจกรรมย่างและตกแต่งเซ็มเบเอง หรือร้านขนมราคาถูกตั้งกันอยู่เรียงรายจนเรียกกันว่าเป็น “เมืองออนเซ็นที่ทำให้อยากจะเดินเล่น” ทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวไม่เหมือนใครอย่าง “เก็งเซ็นโนะโมริ” ให้คุณได้ชิมน้ำพุร้อนซึ่งขนานนามตนเองว่าเป็น “น้ำพุร้อนรสชาติแย่ที่สุดในญี่ปุ่น” นอกจากจะมีบ่อแช่มือที่หาได้ยากในนีงาตะแล้ว ยังมีการให้สร้างความทรงจำโดยแขวนป้ายสำหรับเข้าแช่น้ำพุร้อนที่ได้มาจากออนเซ็นหลายๆ แห่ง หรือจะไปอธิษฐานขอเรื่องความรักโดยราดน้ำลงบนรูปปั้นสำหรับราดน้ำพุร้อนก็ได้ ที่นี่จึงเป็นจุดที่กลุ่มสาวๆ ไม่ควรพลาดมาเที่ยวกันเลยทีเดียว
วันที่ 3
ออกเดินทางจากที่พัก
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมภาคเหนือ
คฤหาสน์ของเกษตรกรผู้มั่งคั่งและมีอิทธิพลอันเต็มไปด้วยความงามของนิอิกะตะ สถาปัตยกรรม สวน และงานศิลป์

อนุรักษ์และเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมอดีตคฤหาสน์ของเจ้าของที่ดินในเอะจิโกะ คฤหาสน์อันหรูหรางดงามจนทำให้คุณแทบจะลืมหายใจนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 8 ปี ภายในอาณาเขตกว้างใหญ่ถึง 8,800 สึโบะ (0.03 ตารางกิโลเมตร) มีสิ่งก่อสร้างต่างๆ เช่น อาคารหลักสำหรับอยู่อาศัย ห้องจัดเลี้ยง ห้องชงชา และโกดัง รวมถึงสวนแบบจิเซนไคยูชิคิ (สวนที่มีสระน้ำใหญ่อยู่ตรงกลาง) ซึ่งออกแบบโดยนักจัดสวนชื่อดัง แถมยังสามารถชมคอลเลกชันผลงานศิลปะที่รวบรวมโดยเจ้าของบ้านหลายต่อหลายรุ่นได้อีกด้วย
ในสวนกลางมีดอกวิสทีเรียที่แผ่กิ่งก้านสาขามาจากต้นไม้เพียงต้นเดียว ดอกไม้สีม่วงอ่อนจะผลิบานส่งกลิ่นหอมในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปี สวนในเดือนพฤศจิกายนจะถูกแต่งแต้มสีสันด้วยใบไม้เปลี่ยนสีราวกับยกภูเขาสวยที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีมาตั้ง ไม่ควรพลาดชมสีสันของสวนแบบจิเซนไคยูชิคิที่มองเห็นจากห้องจัดเลี้ยงขนาด 100 เสื่อ ในช่วงเหมาะกับการชมดอกวิสทีเรียและใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการประดับไฟเพื่อสร้างให้เกิดบรรยากาศน่าอัศจรรย์ ที่นี่บรรยากาศดีทั้งสี่ฤดูและมาเพลิดเพลินได้เสมอ เพราะนอกจากดอกวิสทีเรียกับใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเป็นที่นิยมแล้ว ยังมีซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวในฤดูร้อน และหิมะในฤดูหนาวด้วย
ทั้งยังมีร้านต่างๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร (ต้องจอง) หรือที่พัก (ต้องจอง) เป็นต้น จึงอยากเชิญคุณมาค่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามของนิอิกะตะ
ในสวนกลางมีดอกวิสทีเรียที่แผ่กิ่งก้านสาขามาจากต้นไม้เพียงต้นเดียว ดอกไม้สีม่วงอ่อนจะผลิบานส่งกลิ่นหอมในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปี สวนในเดือนพฤศจิกายนจะถูกแต่งแต้มสีสันด้วยใบไม้เปลี่ยนสีราวกับยกภูเขาสวยที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีมาตั้ง ไม่ควรพลาดชมสีสันของสวนแบบจิเซนไคยูชิคิที่มองเห็นจากห้องจัดเลี้ยงขนาด 100 เสื่อ ในช่วงเหมาะกับการชมดอกวิสทีเรียและใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการประดับไฟเพื่อสร้างให้เกิดบรรยากาศน่าอัศจรรย์ ที่นี่บรรยากาศดีทั้งสี่ฤดูและมาเพลิดเพลินได้เสมอ เพราะนอกจากดอกวิสทีเรียกับใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเป็นที่นิยมแล้ว ยังมีซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวในฤดูร้อน และหิมะในฤดูหนาวด้วย
ทั้งยังมีร้านต่างๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าของฝาก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร (ต้องจอง) หรือที่พัก (ต้องจอง) เป็นต้น จึงอยากเชิญคุณมาค่อยๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามของนิอิกะตะ
อาณาจักรเซมเบ้นีงาตะ
วาดรูปบนข้าวเกรียบ! สวนสนุกธีมข้าวเกรียบ

สวนสนุกแห่งนี้บริหารงานโดย Befco บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านขนม "บากะอุเกะ" เป็นสถานที่ที่ไม่เหมือนใคร เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนีงาตะ ผู้ผลิตข้าวเกรียบอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชมช่างฝีมืออบข้าวเกรียบเท่านั้น แต่คุณยังสามารถอบข้าวเกรียบของคุณเองหรือสร้างสรรค์ข้าวเกรียบของคุณเองได้ด้วยการวาดภาพหรือคำที่คุณชื่นชอบ กิจกรรมวาดภาพข้าวเกรียบขนาดใหญ่พิเศษเป็นที่นิยมอย่างมาก นับเป็นความทรงจำอันแสนวิเศษสำหรับการเดินทางของคุณ
มุมอาหารและเครื่องดื่มมีเมนูพิเศษ เช่น "ข้าวเกรียบซอฟต์เซิร์ฟ" และ "บากะอุเกะ คร็อกเกต์" ร้านขายของที่ระลึกมีสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงขนม "บากะอุเกะ" เฉพาะของอาณาจักรเซมเบ้ และสินค้าบากะอุเกะ
ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชมช่างฝีมืออบข้าวเกรียบเท่านั้น แต่คุณยังสามารถอบข้าวเกรียบของคุณเองหรือสร้างสรรค์ข้าวเกรียบของคุณเองได้ด้วยการวาดภาพหรือคำที่คุณชื่นชอบ กิจกรรมวาดภาพข้าวเกรียบขนาดใหญ่พิเศษเป็นที่นิยมอย่างมาก นับเป็นความทรงจำอันแสนวิเศษสำหรับการเดินทางของคุณ
มุมอาหารและเครื่องดื่มมีเมนูพิเศษ เช่น "ข้าวเกรียบซอฟต์เซิร์ฟ" และ "บากะอุเกะ คร็อกเกต์" ร้านขายของที่ระลึกมีสินค้าหลากหลายประเภท รวมถึงขนม "บากะอุเกะ" เฉพาะของอาณาจักรเซมเบ้ และสินค้าบากะอุเกะ
ถนนคุโรเบ

มุราคามิ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองปราสาท เป็นที่ตั้งของอาคารอันทรงคุณค่ามากมาย รวมถึงอาคารบางหลังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
เพื่ออนุรักษ์ภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับอาคารเหล่านี้ ชาวบ้านจึงริเริ่มโครงการ "เบดำ" ขึ้น โครงการนี้ประกอบด้วยการทาสีรั้วไม้ของย่านอันเซ็นโคจิและพื้นที่โดยรอบเป็นสีดำเพื่อสร้างทัศนียภาพถนนที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และทุกคนตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุในท้องถิ่นต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือ
โครงการนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูง จนได้รับรางวัล "บ้านสร้างด้วยมือ" และ "ภูมิทัศน์เมืองสวยงาม" จากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว นับแต่นั้นมา พื้นที่แห่งนี้ก็ยังคงเขียวขจีด้วยการปลูกต้นไม้
ลองเดินเล่นและชื่นชมทัศนียภาพเมืองที่ชาวบ้านท้องถิ่นรังสรรค์ขึ้นดูไหม?
เพื่ออนุรักษ์ภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับอาคารเหล่านี้ ชาวบ้านจึงริเริ่มโครงการ "เบดำ" ขึ้น โครงการนี้ประกอบด้วยการทาสีรั้วไม้ของย่านอันเซ็นโคจิและพื้นที่โดยรอบเป็นสีดำเพื่อสร้างทัศนียภาพถนนที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และทุกคนตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้สูงอายุในท้องถิ่นต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือ
โครงการนี้ได้รับการยกย่องอย่างสูง จนได้รับรางวัล "บ้านสร้างด้วยมือ" และ "ภูมิทัศน์เมืองสวยงาม" จากกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยว นับแต่นั้นมา พื้นที่แห่งนี้ก็ยังคงเขียวขจีด้วยการปลูกต้นไม้
ลองเดินเล่นและชื่นชมทัศนียภาพเมืองที่ชาวบ้านท้องถิ่นรังสรรค์ขึ้นดูไหม?
ชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระ
รูปร่างสวยงามที่รังสรรค์โดยคลื่นแรงของทะเลญี่ปุ่น

น้ำทะเลสีครามใสตัดกับทรายสีขาวดูงดงาม ชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระเป็นชายฝั่งยาว 11 กม. ในอำเภอมุระคะมิ มีภูมิประเทศหลากหลายที่เกิดจากการกัดเซาะของคลื่นทะเลญี่ปุ่น เช่น หินรูปร่างแปลกตา แนวปะการังหรือถ้ำ ทิวทัศน์สุดตระการตานี้ได้รับเลือกให้เป็นจุดมีทัศนียภาพสวยของญี่ปุ่นและอนุสาวรีย์ธรรมชาติ
เรือนำเที่ยวก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการดื่มด่ำทิวทัศน์สวยๆ ของชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระ ไฮไลต์อยู่ที่รูปร่างยิ่งใหญ่ตระการตาของหินแปลกตาต่างๆ อย่างเมกาเนะอิวะ (หินแว่นตา) และเคียวริวอิวะ (หินไดโนเสาร์) เด็กๆ จะได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวลในระหว่างล่องเรือประมาณ 40 นาทีด้วย ซึ่งคุณจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับนกนางนวลที่บินเข้ามาใกล้ๆ
เรือนำเที่ยวได้รับความนิยมมาก เราจึงแนะนำให้นั่งช่วงเช้าที่จัดว่าคนน้อย และมีเรือเที่ยวเย็นให้คุณได้ชมวิวยามเย็นที่โรแมนติก แนะนำว่าควรรีบไปต่อแถวหากต้องการที่นั่งมองเห็นวิวชัดๆ
ตราตรึงใจไปกับอาทิตย์อัสดงที่มองเห็นจากอาคารชมตะวันตกดินชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระซึ่งมีร้านอาหารและมุมจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นด้วย อย่าลืมแวะไปชมกันให้ได้ค่ะ
เรือนำเที่ยวก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการดื่มด่ำทิวทัศน์สวยๆ ของชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระ ไฮไลต์อยู่ที่รูปร่างยิ่งใหญ่ตระการตาของหินแปลกตาต่างๆ อย่างเมกาเนะอิวะ (หินแว่นตา) และเคียวริวอิวะ (หินไดโนเสาร์) เด็กๆ จะได้สนุกสนานไปกับการให้อาหารนกนางนวลในระหว่างล่องเรือประมาณ 40 นาทีด้วย ซึ่งคุณจะรู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับนกนางนวลที่บินเข้ามาใกล้ๆ
เรือนำเที่ยวได้รับความนิยมมาก เราจึงแนะนำให้นั่งช่วงเช้าที่จัดว่าคนน้อย และมีเรือเที่ยวเย็นให้คุณได้ชมวิวยามเย็นที่โรแมนติก แนะนำว่าควรรีบไปต่อแถวหากต้องการที่นั่งมองเห็นวิวชัดๆ
ตราตรึงใจไปกับอาทิตย์อัสดงที่มองเห็นจากอาคารชมตะวันตกดินชายฝั่งสะสะกะวะนะกะเระซึ่งมีร้านอาหารและมุมจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นด้วย อย่าลืมแวะไปชมกันให้ได้ค่ะ
สึรุโอกะ และ ซากาตะ
จุดหมายปลายทาง
