จังหวัดอะคิตะ
บ้านซามูไรคะคุโนะดะเทะที่มีต้นซากุระสวยงามเรียงรายอยู่ ไปสัมผัสกับพลังที่ "เทศกาลดอกไม้ไฟโอมะกะริ" ชมความสวยงามของใบไม้แดงที่ฮะจิมันไท และช่องแคบดะคิกะเอะริ สนุกสนานกับเทศกาลในฤดูหนาวอย่างประเพณีนะมะฮะเกะที่เมืองโอะกะ และเทศกาลหิมะโยะโคะเทะคะมะคุระ นอกจากนี้ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์อะคิตะ หรือดราก้อนอายซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ฮะจิมันไทก็กำลังเป็นที่จับตามองไม่แพ้กัน
ธรรมชาติอันงดงามของอะคิตะ
ทะเลสาปทะซะวะ, รูปปั้นทัตสึโกะ
ทะเลสาปทะซะวะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยวิวที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น น้ำในทะเลสาปเป็นสีฟ้าใส ถึงขนาดมองเห็นปลาว่ายน้ำได้ ทะเลสาปนี้ลึกที่สุดในญี่ปุ่น จุดที่ลึกที่สุดคือ 423.4 ม. ยิ่งน้ำลึกผิวน้ำยิ่งเปลี่ยนสีได้หลายเฉดสี ทั้งน้ำเงินสด, คราม, น้ำเงินเข้ม ควรค่าแก่การมาชม
"รูปปั้นทัตสึโกะ" รูปปั้นหญิงสาวสีทองยืนอยู่หน้าทะเลสาปอันกว้างใหญ่ เป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังของทะเลสาปทะซะวะ
ช่องแคบดะคิกะเอะริ
"ช่องแคบดะคิกะเอะริ" เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งชมใบไม้ผลิใหม่และใบไม้เปลี่ยนสี มีลำธารสีฟ้างดงามดูน่าอัศจรรย์ เส้นทางเดินเขาที่นี่แคบและชันมาก จนเวลาคนเดินสวนกันริมผา ต้องเดินชิดกันจนแทบจะกอดกันไม่งั้นจะผ่านไปไม่ได้ เป็นที่มาของชื่อ "ดะคิกะเอะริ (กอด)" ช่วงที่น่ามาเที่ยวคือช่วงใบไม้ผลิใหม่ กลางมิถุนายนถึงปลายสิงหาคม และช่วงใบไม้เปลี่ยนสีต้นตุลาคมถึงต้นพฤศจิกายน โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะมีจัด "เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีดะคิกะเอะริ" มีการแสดงและพิธีชงชา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว
แหลมนิวโดซะคิ
แหลมนิวโดซะคิอยู่ตรงส่วนเหนือสุดของแหลมโอะกะ เป็นจุดชมวิวที่มองเห็นทะเลญี่ปุ่น ไฮไลท์คือชมพระอาทิตย์ตกที่แหลม ภาพพระอาทิตย์สีสันร้อนแรงย้อมท้องฟ้าและทะเลให้กลายเป็นสีส้มประหนึ่งจะรวมเป็นผืนเดียวกัน น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในร้อยวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
ฮะจิมันไทดราก้อนอาย
ทิวทัศน์น่าอัศจรรย์ที่จะปรากฏขึ้นเมื่อหิมะบน "คะกะมินุมะ" ในฮะจิมันไทเริ่มละลาย ผืนน้ำสีฟ้าและหิมะสีขาวดูราวกับดวงตามังกร จึงเรียกกันว่า "ฮะจิมันไทดราก้อนอาย" ปรากฏการณ์นี้จะปรากฏสั้นๆ ช่วงปลายพฤษภาคมถึงต้นมิถุนายนของทุกปี และอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพอากาศ จึงหายากและควรค่าแก่การชมยิ่งนัก มาลองดูสิว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเองหรือไม่
ภูเขาชิระคะมิซัง
ภูเขาชิระคะมิซังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโก (สาขาธรรมชาติ) เป็นเขตภูเขาซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดอาโอโมริและอาคิตะ มีป่าบีชดงดิบใหญ่ที่สุดโลก เขตที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกคือใจกลางป่าดงดิบซึ่งมีขนาด 17,000 เฮกเตอร์จากทั้งหมด 130,000 เฮกเตอร์ แม้ว่าการเดินป่าในเขตที่ขึ้นทะเบียนจะยาก แต่บริเวณใกล้เคียงก็มีการจัดทำเส้นทางเดินป่าหลายเส้น ให้ได้สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการของภูเขาชิระคะมิซัง
ประวัติศาสตร์, วัฒนธรรม, เทศกาลของอะคิตะ
พิพิธภัณฑ์นะมะฮะเกะ
"นะมะฮะเกะ" พิธีกรรมพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาในแหลมโอะกะ เทพสวมหน้ากากยักษ์จะโผล่มาถามว่า "เด็กคนไหนร้องไห้" คนจึงมักมองว่าเทพนี้เป็นวายร้ายชอบทำเด็กร้อง แต่ความจริงแล้วเทพนี้จะมาหาทุกวันสิ้นปีเพื่อตักเตือนไม่ให้คนเกียจคร้าน ทำให้คนไม่มีโรคภัย ผลผลิตงอกเงย ป่าและทะเลอุดมสมบูรณ์
"พิพิธภัณฑ์นะมะฮะเกะ" นำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในท้องถิ่นโดยเน้นเรื่องนะมะฮะเกะ ตรงมุมจัดแสดงนะมะฮะเกะ มีหน้ากากหลากหลายแบบที่เคยใช้ในหมู่บ้านจริงๆ ถึง 150 อัน
บ้านซามูไรคะคุโนะดะเทะ
คะคุโนะดะเทะเป็นเมืองปราสาทที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยเอโดะ ได้รับฉายาว่า "เกียวโตจิ๋วแห่งมิจิโนะคุ" ภายในพื้นที่เล็กๆ รัศมี 2 กม.มีสิ่งก่อสร้างโบราณหลงเหลืออยู่จำนวนมาก เช่น บ้านซามูไร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติต่างแห่กันมาเพื่อชมเมืองอันงดงาม ที่นี่ขึ้นชื่อในฐานะจุดชมซากุระ ช่วงปลายเมษายนถึงต้นพฤษภาคมซึ่งเป็นช่วงที่สวยที่สุดที่นี่จะเนืองแน่นไปด้วยผู้คน จุดขายคือภาพชิดะเระซากุระสีชมพูซึ่งตัดกับกำแพงบ้านซามูไรสีดำ
โยะโคะเทะคะมะคุระ
""คะมะคุระ"" สัญลักษณ์อันโดดเด่นของโทโฮคุในหน้าหนาว ในเทศกาลโยะโคะเทะคะมะคุระจะมีการจุดไฟในบ้านหิมะ (โดมหิมะ) เด็กๆ จะร้อง ""ไฮเตะตันเซะ"" ก่อนเข้าไปดื่มเหล้าหวานและทานโมจิข้างใน โลกอันสวยงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยายนี้ ใครมาเยือนเป็นต้องหลงเสน่ห์ เทศกาลนี้จัดวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์ของทุกปี คามาคุระกว่า 100 หลังจะถูกตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ในตัวเมืองโยะโคะเทะ โดยเน้นที่ถนนคะมะคุระเป็นหลัก
เทศกาลอะคิตะคันโต
เทศกาลหน้าร้อนชื่อดังของโทโฮคุ อะคิตะในคืนหน้าร้อนส่องสว่างด้วยโคมไฟที่ห้อยอยู่บนคันโตกว่า 280 แท่ง ชาวบ้านเปรียบแท่งคันโตเป็นรวงข้าวและเปรียบโคมไฟเป็นกระสอบข้าวเพื่อขอพรให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ แท่งคันโตที่ชูขึ้นฟ้ามีน้ำหนักถึง 50 กก. "นักแสดง" จะนำแท่งคันโตนี้มาตั้งไว้บนฝ่ามือ, หน้าผาก, บ่าและสะโพก น่าตื่นตาตื่นใจจนดูแล้วแทบลืมหายใจ เทศกาลนี้จะจัดวันที่ 3-6 สิงหาคมของทุกปี
งานประกวดดอกไม้ไฟทั่วประเทศ "เทศกาลดอกไม้ไฟโอมะกะริ"
งานประกวดดอกไม้ไฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ จัดโดยช่างทำดอกไม้ไฟจากทั่วประเทศ มีประวัติศาสตร์และประเพณียาวนานมาตั้งแต่ปี 1910 ถือเป็นหนึ่งใน "สามสุดยอดดอกไม้ไฟของญี่ปุ่น" ไฮไลท์ของงานคือ "ดอกไม้ไฟประจำงาน" ซึ่งจะมีการจุดดอกไม้ไฟประกอบเสียงเพลงแบบอลังการยาวนานประมาณ 6 นาทีครึ่ง "ดอกไม้ไฟสี่ฤดู" ซึ่งยิงดอกไม้ไฟโดยสื่อถึงฤดูกาลที่แตกต่างกัน ใช้ความคิดสร้างสรรค์ขั้นสูงรังสรรค์ดอกไม้ไฟ วาดออกมาเป็นงานศิลปะจากแสง เต็มผืนฟ้ายามค่ำคืน
งานจุดขึ้นทุกปีในวันเสาร์สุดท้ายของเดือนสิงหาคม
สุนัขพันธุ์อะคิตะ
สุนัขอะคิตะเป็นที่รู้จักเพราะได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง "ฮะจิโค หมาผู้ซื่อสัตย์" และเทศบาลยังมอบเป็นของขวัญให้อาลินา ซากิโทวา นักสเกตน้ำแข็งหญิงผู้ชนะเหรียญทองอีกด้วย ในอะคิตะ เราสามารถพบสุนัขอะคิตะได้เพียงไม่กี่ที่ ข้างสถานี JR โอดะเตะจะมี "ศูนย์สุนัขอะคิตะ" ซึ่งเราจะได้พบสุนัขอะคิตะที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ดูแลศูนย์ท่องเที่ยว
ออนเซ็นในอะคิตะ
หมู่บ้านออนเซ็นนิวโต
หมู่บ้านออนเซ็นนิวโตมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศเพราะเป็นออนเซ็นที่ตั้งอยู่กลางเขา มีที่พักออนเซ็นกระจายตัวอยู่ 7 แห่ง แต่ละแห่งก็มีต้นน้ำไม่เหมือนกัน ลักษณะน้ำและสไตล์ของที่พักก็มีให้เลือกหลายแบบ แนะนำให้ลองตระเวนแช่หลายๆ ที่และสนุกกับความหลากหลาย
ทะมะกะวะออนเซ็น
ทะมะกะวะออนเซ็นเป็นที่หนึ่งของญี่ปุ่นถึงสองเรื่อง เรื่องแรกคือ "ปริมาณน้ำที่พุ่งออกมาจากจุดหนึ่ง" ที่นี่มีน้ำร้อนพุ่งออกมาถึง 9,000 ลิตรต่อนาที อุณหภูมิน้ำที่ต้นน้ำร้อนถึง 98 องศา คุณจะสัมผัสได้ถึงพลังจากใต้โลกเมื่อเห็นออนเซ็นเดือดปุดๆ เรื่องที่สองคือ "น้ำมีความเป็นกรดสูง" น้ำที่นี่ความเป็นกรดสูงถึง pH1.2 มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคได้ดี เวลาแช่ก็จะแสบๆ บริเวณผิวจนรู้สึกได้ถึงสรรพคุณรักษาสารพัดโรคของออนเซ็นแห่งนี้
จานเด็ดที่ห้ามพลาดของอะคิตะ
คิริทัมโปะ
"คิริทัมโปะ" ทำโดยนำก้อนข้าวไปบี้ พันไม้สน นำไปย่าง แล้วตัดเป็นชิ้นๆ ให้ทานง่าย เมื่อนำไปต้มกับซุปไก่ฮินะอิ อีกหนึ่งของขึ้นชื่อของอะคิตะ ก็จะได้เป็น "ต้มคิริทัมโปะ" เมนูท้องถิ่นของอะคิตะหน้าหนาวที่อัดแน่นด้วยวัตถุดิบในพื้นที่ หรือจะนำคิริทัมโปะเสียบไม้ไปจิ้มมิโสะแล้วย่างจนมีกลิ่นหอมเกรียมๆ เล็กน้อย เป็น "มิโสะทัมโปะ" ก็อร่อยเช่นกัน ยิ่งถ้าย่างด้วยเตาอิโระริแบบโบราณจะยิ่งได้บรรยากาศ
อินะนิวะอุด้ง
อินะนิวะอุด้งถือกำเนิดในอินะนิวะโจ เมืองยุซะวะ ขั้นตอนการนวดเส้น, ทุบเส้น, รีดเส้น ทำด้วยมือทุกขั้นตอน จุดเด่นคือความเหนียวนุ่มและความลื่นคอ นอกจากเมืองยุซะวะแล้ว ที่อื่นในจังหวัดอะคิตะ เช่น ตัวเมืองอะคิตะ ก็สามารถหาอินะนิวะอุด้งทานได้เช่นกัน